ทีมชาติโปรตุเกส (1-A1) vs ทีมชาติสเปน (1-A4)

แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า - เยอรมัน (สนามกลาง)

อัตราต่อรอง : สเปน ต่อ 0.5

ทีมชาติโปรตุเกส
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้เสียงวิจารณ์หลายๆ คนเงียบไปเมื่อยิงประตูชัยให้กับ โปรตุเกส ในเกมที่ 220 ที่เขาลงรับใช้ชาติเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะนำทัพของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ลงสนามในสุดสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องเซอร์ไพรส์มากมายในทีมชาติโปรตุเกส ที่ออกสตาร์ทในรอบรองชนะเลิศ และ มาร์ติเนซ จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงต้นครึ่งหลัง เช่น การส่ง ชูเอา เนเวส ลงไปเล่นแบ็คขวา และการส่ง วิตินญ่า เพื่อนร่วมทีม ปารีส-แซงต์ แชร์กแมง ลงสนาม

ผลงานของ ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา จากม้านั่งสำรองน่าจะทำให้เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริง ดังนั้น ตรินเกา หรือ เปโดร เนโต้ อาจต้องออกจากสนาม ในขณะที่ รูเบน เนเวส ไม่น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากถูกเรียกตัวออกก่อนครบ 1 ชั่วโมงในเกมที่แล้ว

ทีมชาติสเปน
กัปตันทีม อัลบาโร่ โมราต้า ไม่มีตำแหน่งในทีมชาติสเปน เนื่องจาก หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เลือกใช้มิเกล โอยาร์ซาบาล ลงเล่นในตำแหน่งฟอลส์ไนน์ ซึ่งได้ผลดีมาก โดยเขาทำแอสซิสต์ได้  ครั้งในครึ่งแรก

ฟาเบียน รุยซ์ อาจได้ลงเล่นในแดนกลาง หลังจากได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมกับ ฝรั่งเศส หลังจากพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ โรดรี ก็ไม่ได้รับความเสี่ยงใดๆ หลังจากเพิ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้า

แม้ว่าสเปนจะเล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่แนวรับที่อ่อนประสบการณ์ของพวกเขาก็ดูน่าหวั่งไหวในช่วงท้ายเกมกับ ฝรั่งเศส ที่พยายามจะโต้กลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เปโดร ปอร์โร่ และ ดีน เฮาเซ่น ที่กลายเป็นบ่อ ขณะที่ ดานี่ บิเบียน ลงมาเป็นตัวสำรองและทำเข้าประตูตัวเอง

ผลงาน 6 นัดหลังของ โปรตุเกส (DWDLWW)
เสมอ สกอตแลนด์ 0-0 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ โปแลนด์ 5-1 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ โครเอเชีย 1-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
แพ้ เดนมาร์ก 0-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เดนมาร์ก 5-2 (E) (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เยอรมัน 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงาน 6 นัดหลังของ สเปน (WWWDWW)
ชนะ เซอร์เบีย 3-0 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เดนมาร์ก 2-1 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-2 (ห) (เนชั่นส์ลีก)
เสมอ เนเธอร์แลนด์ 2-2 (ย) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ เนเธอร์แลนด์ 5-4 (P) (ห) (เนชั่นส์ลีก)
ชนะ ฝรั่งเศส 5-4 (ก) (เนชั่นส์ลีก)

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
27-09-2022 Portugal 0 : 1 Spain
02-06-2022 Spain 1 : 1 Portugal
04-06-2021 Spain 0 : 0 Portugal
07-10-2020 Portugal 0 : 0 Spain
15-06-2018 Portugal 3 : 3 Spain
27-06-2012 Portugal 0 : 0* Spain

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติโปรตุเกส (4-4-2) : ดิโอโก้ คอสต้า - ดิโอโก้ ดาโลต์, รูเบน ดิอาส, กอนซาโล่ อิ๊คนาซิโอ, นูโน่ เมนเดส - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, วิตินญ่า, ชูเอา เนเวส - ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม), บรูโน่ แฟร์นานเดส

ทีมชาติสเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน - เปโดร ปอร์โร่, โรบิน เลอ นอร์ม็องด์, ดีน เฮาเซ่น, มาร์ค กูกูเรลย่า - มิเกล เมริโน่, ฟาเบียน รุยซ์, เปดรี - ลามีน ยามาล, มิเกล โอยาร์ซาบาล (กัปตันทีม), นิโก้ วิลเลียมส์

ผู้ตัดสิน : ซานโดร ชาเรอร์ (สวิตเซอร์แลนด์)

แนวโน้มของเกม
ทีมชาติสเปน ชุดนี้ดูจะไร้เทียมทานในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เล่นริมเส้น 2 คนที่อันตรายที่สุดในวงการฟุตบอลโลก และการคุกคามอย่างต่อเนื่องของพวกเขาอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินเกมนี้ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า

โดยรวมแล้วทีมชาติโปรตุเกส ถือว่าแข็งแกร่งกว่า เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งในแนวรับ แต่พวกเขายังไม่มีสัญชาตญาณนักฆ่าและผู้เล่นที่สามารถทำประตูชัยได้ ยกเว้น โรนัลโด้ ที่อายุมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นจุดอ่อนของพวกเขาในนัดชิงชนะเลิศครั้งนี้

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
โปรตุเกส 1-2 สเปน