อาร์เซน่อล (อังกฤษ) vs ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)

แข่งขันวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : เอมิเร็ตส์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อ 0/0.5

อาร์เซน่อล
โทมัส ปาร์เตย์ กองกลางงตัวหลักของ อาร์เซน่อล ถูก เดแคลน ไรซ์ ตำหนิอย่างหนักที่เบร์นาเบว และก็สมควรแล้ว เพราะนักเตะทีมชาติกานา ได้รับใบเหลืองโดยไม่จำเป็น ทำให้เขาต้องพลาดลงเล่นในเกมเลกแรก เนื่องจากติดโทษแบน และการลงโทษของ ปาร์เตย์ ถือเป็นปัญหามากเป็นพิเศษ เนื่องจาก จอร์จินโญ่ กองกลางตัวเก๋า อาจต้องพักตลอดฤดูกาลนี้เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หน้าอก ดังนั้น ไรซ์ น่าจะต้องถอยต่ำลงมา โดยให้ มิเกล เมริโน่ ลงเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ทางซ้าย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับว่า เมริโน่ จะสลัดความกังวลที่ยังไม่เปิดเผยได้หรือไม่ แต่คาดว่าแข้งชาวสเปนจะได้รับไฟเขียวให้ติดทีม และ เบน ไวท์ (หัวเข่า) ก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี ยังต้องลุ้นหนักกว่ามาก เนื่องจากปัญหาที่หัวเข่าของเขา ขณะที่ กาเบรียล มากัลเญส (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง), ไค ฮาแวร์ตซ์ (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง), ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (หัวเข่า) และ กาเบรียล เชซุส (เอ็นไขว้หน้า) จะต้องนั่งดูอย่างช่วยอะไรไม่ได้

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ในทางกลับกัน กุญแจสำคัญในการพัฒนาของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในถ้วยยุโรป คือ ใบรับรองสุขภาพที่ดีของบรรดาแข้งตัวหลัก และคาดว่า หลุยส์ เอ็นริเก้ จะมีผู้เล่นทุกคนพร้อมสำหรับการเดินทางไปเยือนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยอดีตกุนซือ บาร์เซโลน่า ไม่ลังเลที่จะส่งผู้เล่นตัวจริงลงสนามเต็มกำลังในเกมกับ นีซ และควรคงผู้เล่นตัวจริงส่วนใหญ่ไว้ แม้ว่าผลงานจะไม่น่าพอใจก็ตาม และแม้ว่า แบรดลีย์ บาร์กโคล่า จะทุ่มสุดตัวเพื่อแย่งชิงตำแหน่งของ เดซีร์ ดูเอ ก็ตาม แต่ฤดูกาลที่น่าทึ่งของ อุสมาน เดมเบเล่ ทำให้ผู้เล่นชาวฝรั่งเศสรายนี้ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงถึง 44 ลูก จาก 44 นัด โดยแบ่งเป็นยิงเอง 32 ประตู และแอสซิสต์อีก 12 ครั้ง แม้ว่าพลังของเขาลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้เขายิงประตูไม่ได้เลยใน 6 เกมติดต่อกันทั้งในลีกเอิง และแชมเปี้ยนส์ ลีก

ผลงาน 6 นัดหลังของ อาร์เซน่อล (DWDWWD)
เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ย)
ชนะ เรอัล มาดริด 3-0 (ห) (ยูซีแอล)
เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (ห)
ชนะ เรอัล มาดริด 2-1 (ย) (ยูซีแอล)
ชนะ อิปสวิช 4-0 (ย)
เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 (ห)

ผลงาน 6 นัดหลังของ เปแอสเช (WWLWDL)
ชนะ อองเช่ร์ 1-0 (ห)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (ห) (ยูซีแอล)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 2-3 (ย) (ยูซีแอล)
ชนะ เลอ อาฟร์ 2-1 (ห)
เสมอ น็องต์ 1-1 (ย)
แพ้ นีซ 1-3 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
02/10/24    (UCL) Arsenal 2 - 0 PSG
28/07/18    (ICC) Arsenal 5 - 1 PSG
24/11/16    (UCL) Arsenal 2 - 2 PSG
14/09/16    (UCL) PSG 1 - 1 Arsenal

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด รายา - ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลียม ซาลิบา, ยาคุบ คีวิออร์, ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี - มาร์ติน โอเดการ์ด, เดแคลน ไรซ์, มิเกล เมริโน่ - บูกาโย่ ซาก้า, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

เปแอสเช (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - อชราฟ ฮาคิมี, มาร์กินญอส, วิลเลียน ปาโช่, นูโน่ เมนเดส - ฟาเบียน รุยซ์, วิตินญ่า, ชูเอา เนเวส - แบรดลีย์ บาร์กโคล่า, อุสมาน เดมเบเล่, ควิช่า ควาราตสเคเลีย

ผู้ตัดสิน : สลาฟโก้ วินซิช (สโลวีเนีย)

แนวโน้มของเกม
แนวรับ เปแอสเช เริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ และมีปัญหาในการทำให้ อุสมาน เดมเบเล่ ทำผลงานได้อย่างเต็มที่ในการโจมตี ซึ่งสัญญาณแรกของความเหนื่อยล้าอาจเริ่มเกิดขึ้นกับทีมแล้ว โดยพวกเขาจะลงเล่นในเลกแรกด้วยเวลาพักน้อยกว่าคู่แข่งจากลอนดอนเหนือ

ลูกทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ยังคงได้รับการสนับสนุนให้ยิงประตูได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าถิ่นไม่มีตัวหยุดเกมอย่าง โทมัส ปาร์เตย์ ทำหน้าที่ในสนาม แต่ความแข็งแกร่งในแนวรับของ อาร์เซน่อล ก็ไม่ถูกตั้งคำถามเมื่อเจอกับ เรอัล มาดริด ยกเว้นความผิดพลาดแบบงงๆ ของ วิลเลียม ซาลิบา เพียงหนึ่งครั้ง

ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เตรียมพร้อมรับมือกับฟูลแบ็คของ เปแอสเช ที่เติมเกมบุกขึ้นสูงเช่นกัน และสามารถจินตนาการได้ว่า "เดอะ กันเนอร์ส" จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเล็กน้อยก่อนต้องไปเยือนปาร์ก เดอส์ แปร๊งซ์ แม้ว่านั่นจะเพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศหรือไม่ยังต้องดูกันต่อไป

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
อาร์เซน่อล 2-1 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง