เซาธ์แฮมป์ตัน (20) vs แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (3)

แข่งขันวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568
คิกออฟ เวลา 21.00 น.
สนาม : เซนต์ แมรีส์ สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 2

เซาธ์แฮมป์ตัน
อัลเบิร์ต โกรนเบค (เอ็นร้อยหวาย) และ ชาร์ลี เทย์เลอร์ (สะโพก) ยังคงต้องพักรักษาตัว แต่ พอล โอนูอาชู หายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าและได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในแนวรุกแทนที่ รอสส์ สจ๊วร์ต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ไซม่อน รัสก์ จะตัดสินใจส่ง คามัลดีน ซูเลมาน่า และ มาเตอุส แฟร์นานเดส ลงเล่นในตำแหน่งแนวรุก และทั้งคู่น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ ไทเลอร์ ดิบลิง ที่กำลังเป็นที่ต้องการตัวอาจเป็นตัวสำรองอีกครั้ง ส่วน ฟลินน์ ดาวน์ส และ เลสลีย์ อูโกชุกวู น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองกลาง โดยมี ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส และ ไรอัน แมนนิ่ง เล่นเป็นวิงแบ็ค ส่วนในรายของ เทย์เลอร์ แฮร์วู้ด-เบลลิส นักเตะจากอะคาเดมี แมนฯ ซิตี้ คาดว่าจะยังคงรักษาตำแหน่งตัวจริงในแนวรับ 3 คนร่วมกับ ยาน เบดนาเร็ค และ แจ็ค สตีเฟนส์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทั้ง โรดรี และ นาธาน อาเก้ ต่างลงฝึกซ้อมกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าและเท้า แต่เกมนี้เร็วเกินไปสำหรับทั้งคู่ ขณะที่ จอห์น สโตนส์ (ต้นขา) และ ออสการ์ บ็อบบ์ (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง) ก็ต้องพักเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เออร์ลิง ฮาแลนด์ มีโอกาสได้ลงสนามทั้งตัวจริงและตัวสำรอง หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซึ่งทำให้ต้องพลาดลงสนามไป 6 นัด โดยที่ โอมาร์ โอมาร์ มาร์มุช และ เฌเรมี่ โดกู อาจช่วยสนับสนุน นอกจากนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะพิจารณาว่าจะให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงต่อไป หรือจะให้พักเขาไว้ก่อนลงเล่นนัดสุดท้ายที่เอติฮัด ในเกมกลางสัปดาห์กับ บอร์นมัธ ดังนั้น ฟิล โฟเด้น, เจมส์ แม็คเอธี หรือ นิโก้ กอนซาเลซ อาจได้รับเลือกหากแข้งชาวเบลเยียมไม่ได้ลงสนาม นอกจากนี้ มานูเอล อาคานจิ จะพยายามลงเล่นเกมแรกนับตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และการที่เขาอาจได้ลงเล่นใน 11 ตัวจริง อาจทำให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ย้ายไปเล่นแบ็กซ้าย และ นิโก้ โอเรียลลี่ ก็ต้องนั่งสำรอง

ผลงาน 6 นัดหลังของ เซาธ์แฮมป์ตัน (DLLDLL)
เสมอ พาเลซ 1-1 (ห)
แพ้ สเปอร์ส 1-3 (ย)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-3 (ห)
เสมอ เวสต์แฮม 1-1 (ย)
แพ้ ฟูแล่ม 1-2 (ห)
แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (ย)

ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (DWWWWW)
เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 (ย)
ชนะ พาเลซ 5-2 (ห)
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (ย)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (ห)
ชนะ ฟอเรสต์ 2-0 (ก) (เอฟเอคัพ)
ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
26/10/24    (PRL) Manchester City 1 - 0 Southampton
08/04/23    (PRL) Southampton 1 - 4 Manchester City
12/01/23    (LEC) Southampton 2 - 0 Manchester City
08/10/22    (PRL) Manchester City 4 - 0 Southampton
20/03/22    (FAC) Southampton 1 - 4 Manchester City
23/01/22    (PRL) Southampton 1 - 1 Manchester City
18/09/21    (PRL) Manchester City 0 - 0 Southampton

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-2-1) : อารอน แรมส์เดล - ยาน เบ็ดนาเร็ค, เทย์เลอร์ แฮร์วู้ด-เบลลิส, แจ็ค สตีเฟ่นส์ - ไคล์ วอร์คเกอร์-ปีเตอร์ส, เลสลีย์ อูโกชุควู, ฟลินน์ ดาวน์ส, ไรอัน แมนนิง - มาเตอุส แฟร์นานเดส, คามัลดีน ซูเลมาน่า - พอล โอนูอาชู

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - มาเธอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรียลลี่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, นิโก้ กอนซาเลซ, อิลคาย กุนโดกัน - เฌเรมี โดกู, เออร์ลิง ฮาแลนด์, โอมาร์ มาร์มูช

ผู้ตัดสิน : ทิม โรบินสัน

แนวโน้มของเกม
ความมั่นใจในแคมป์ของ แมนฯ ซิตี้ พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่กำลังไล่ล่าพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก จะถือเป็นทีมเต็งที่จะเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่กำลังประสบปัญหา โดยเสียประตูใน 18 เกมลีกหลังสุด และเสียประตูอย่างน้อย 2 ลูกใน 14 เกม จากจำนวนนั้น

เกมรับของ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหนียวแน่นและการจบสกอร์ที่ย่ำแย่ของ แมนฯ ซิตี้ ส่งผลให้การเจอกันเกมนัดที่ 2 ก่อนหน้านี้มีสกอร์ต่ำ แต่ยังมั่นใจว่า แมนฯ ซิตี้ จะชนะแบบน่าประทับใจในครั้งนี้เพื่อยึดตำแหน่งใน 5 อันดับแรก

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
เซาธ์แฮมป์ตัน 1-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้