แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (6) vs บอร์นมัธ (11)

แข่งขันวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2568
คิกออฟ เวลา 02.00 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

อัตราต่อรอง : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 1/1.5

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียผู้เล่นตัวหลักอย่าง มาเตโอ โควาซิช ไปก่อนเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า โดยนักเตะชาวโครเอเชียต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว ร่วมกับ โรดรี้ (เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า), นาธาน อาเก้ (ข้อเท้า), ออสการ์ บ็อบบ์ (ต้นขา) และ จอห์น สโตนส์ (ต้นขา) ที่ต่างยังไม่แน่ชัดว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เควิน เดอ บรอยน์ อาจไม่สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในนัดชิงชนะเลิศ นัดสุดท้ายกับ แมนฯ ซิตี้ ได้นั้น แต่ตำนานชาวเบลเยียมที่เตรียมย้ายออกไป น่าจะได้ลงเล่นใน 11 ตัวจริงในเกมเหย้านัดสุดท้ายในสีเสื้อ "เรือใบสีฟ้า" ก่อนจะเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังเพื่ออำลาทีมอย่างเป็นทางการที่เอติฮัด สเตเดี้ยม นอกจากนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่ควรลังเลที่จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนอื่น เนื่องจาก มาเธอุส นูเนส, นิโก้ กอนซาเลซ และ ฟิล โฟเด้น ต่างพร้อมจองพื้นที่ 11 ตัวจริงอีกครั้ง รวมถึง ริโก้ ลูอิส และ เจมส์ แม็คเอธี ด้วยเช่นกัน หลังจากที่ทั้งคู่พลาดลงเล่นในเวมบลีย์

บอร์นมัธ
อันโดนี่ อิราโอล่า ประสบปัญหาบาดเจ็บกองกลางรายใหม่ เนื่องจากดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ สก็อตต์ ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าอย่างน่าสยดสยองหลังจากโดนศอกจาก ไทโรน มิงก์ส ของ วิลล่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เขาเข้ารับการผ่าตัดกรามที่หัก และจะต้องพลาดลงเล่นตลอดฤดูกาลที่เหลือ ร่วมกับ เอเนส อูนาล (หัวเข่า) และ ไรอัน คริสตี้ (ขาหนีบ) ซึ่งต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน และไม่คาดว่า ดานโก้ อูอัตตาร่า (กล้ามเนื้อต้นขา)  หรือ หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า (ต้นขา) จะได้ลงเล่นอีกครั้งในฤดูกาลนี้ โชคดีสำหรับ อิราโอล่า ที่ จัสติน ไคลเวิร์ต สามารถสับเปลี่ยนตัว สก็อตต์ ที่ได้รับบาดเจ็บในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกได้โดยตรง ซึ่งการกลับมาของนักเตะชาวดัตช์รายนี้จะทำให้ ลูอิส คุ้ก ต้องกลับไปเล่นในบทบาทที่ลึกกว่าร่วมกับ ไทเลอร์ อดัมส์ โดย ไคลเวิร์ต จะอยู่ข้างหลัง เอวานนิซอน ซึ่งยิงไป 5 ประตูจากการลงเล่น 5 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีกในเกมนอกบ้าน ส่วนประเด็นการย้ายทีมของ ดีน ฮุยเซ่น ไปยัง เรอัล มาดริด ในเร็วๆ นี้ได้รับการยืนยันแล้ว แต่แข้งเจ้าของค่าตัว 50 ล้านปอนด์รายนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในแนวรับของทีมเยือนอย่างแน่นอน

ผลงาน 6 นัดหลังของ แมนฯ ซิตี้ (WWWWDL)
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (ย)
ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (ห)
ชนะ ฟอเรสต์ 2-0 (ก) (เอฟเอคัพ)
ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (ห)
เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 (ย)
แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1 (ก) (เอฟเอคัพ)

ผลงาน 6 นัดหลังของ บอร์นมัธ (DWDDWL)
เสมอ เวสต์แฮม 2-2 (ย)
ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (ห)
เสมอ พาเลซ 0-0 (ย)
เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (ห)
ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 (ย)
แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 (ห)

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
30/03/25    (FAC) Bournemouth 1 - 2 Manchester City
02/11/24    (PRL) Bournemouth 2 - 1 Manchester City
25/02/24    (PRL) Bournemouth 0 - 1 Manchester City
04/11/23    (PRL) Manchester City 6 - 1 Bournemouth
26/02/23    (PRL) Bournemouth 1 - 4 Manchester City
13/08/22    (PRL) Manchester City 4 - 0 Bournemouth
25/09/20    (LEC) Manchester City 2 - 1 Bournemouth

ผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน - มาเธอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรียลลี่ - นิโก้ กอนซาเลซ, อิลคาย กุนโดกัน - ซาวินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช -  เออร์ลิง ฮาแลนด์

บอร์นมัธ (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า - อดัม สมิธ, อิลย่า ซาบาร์นยี่, ดีน ฮุยเซ่น, มิลอส เกอร์เกซ - ไทเลอร์ อดัมส์, ลูอิส คุ้ก - อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ - เอวานิลซอน

ผู้ตัดสิน : โธมัส บรามอลล์

แนวโน้มของเกม
แมนฯ ซิตี้ ที่เหนื่อยล้าและหมดแรงหลังจากเดินทางเยือนเมืองหลวงอย่างไม่ประสบความสำเร็จ อาจต้องทำงานหนักในการเผชิญหน้ากับ บอร์นมัธ ซึ่งแทบไม่มีใครสู้ได้ในเกมเยือนพรีเมียร์ลีก

ผลงานในช่วงหลังของ "เดอะ เชอร์รีส์" ทำให้ยากที่จะมองข้ามทีมเยือนในการทำเซอร์ไพรส์ที่แมนเชสเตอร์ได้ และสำหรับเกมนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเกมที่มีความตึงเครียดและจบลงด้วยผลเสมอ ซึ่งผลการแข่งขันนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่ายมากนัก

ฟันธงโดย : I HEAR TOO
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 บอร์นมัธ