หงส์แชมป์ สมัย20 ! บทสรุป พรีเมียร์ลีก 2024-2025 สิงห์ผงาด -เจ้าป่า อดไป UCL
หลังจากที่ฟาดกันกันมานาน 9เดือน และเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ปิดฉากรูปม่านครบ38นัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-2025 ซึ่งบทสรุปทุกอย่างก็ตัดสินกันไปก่อนหน้าแล้ว ทั้งเรื่องแชมป์ที่ ลิเวอร์พูล ครองไปนอนกอดตั้งแต่จบโปรแกรมนัดที่ 34 รวมถึงทีมตกชั้นที่ 3น้องใหม่ ที่พึ่งขึ้นชั้นมาอย่าง อิปสวิช ทาวน์ - เซาธ์แฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ ซิตี้ กอดคอกันตกกลับบ้านเก่าหมด
มีเพียงแค่ โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้นที่ต้องแย่งกันชุลมุนในนัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล แชมป์และรองแชมป์ จองตั๋วไปแล้ว โดย5ทีมเหล่านี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - นิวคาสเซิ่ล - เซลซี - แอสตัน วิลล่า และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต้องมาแย่งกันยิบตาในนัดสุดท้าย 38
และสุดท้ายผู้ที่ผิดหวังนั้นก็คือ2ทีม อย่าง แอสตัน วิลล่า และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งลูกทีมของ นูโน่ เอสปิริโต้ มาแพ้ภัยตัวเองในช่วง10นัดสุดท้ายของฤดูกาล รวมถึงเกมชี้ชะตา ที่ ซิตี้ กราวด์ กับคู่แข่งโดยตรงอย่างเซลซี ก็โดนทีมจากลอนดอน บุกมาเอาชนะ 1-0
ฟาก แอสตัน วิลล่า หากว่าพวกเขา บุกมาเอาชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทีมของ อูไน เอเมรี่ จะคว้าตั๋วไป ยูซีแอล ทันที แต่ทว่าการเหลือ10คน ตั้งแต่ครึ่งแรก บวกการตัดสินของกรรมการ และ VAR ที่ยึดประตูก้ำกึ่งของ มอร์แกน โรเจอร์ส ทำให้ส่งผลเสียต่อ สิงห์ผงาด เป็นอย่างมาก ก่อนที่ท้ายที่สุดแล้ว จะแพ้ ยูไนเต็ด ไป 2-0
ทางฝั่งนิวคาสเซิ่ล พวกเขาก็ถือว่ากุมชะตาตัวเองอยู่เหมือนกัน เพราะเล่นใน เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เจอกับ เอฟเวอร์ตัน และถ้าเก็บ3แต้มได้ ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ไม่ต้องไปลุ้นคู่แข่งอะไรเลย แต่ทว่าสาลิกาดง กลับหลุดฟอร์ดดื้อๆ ถูก ทอฟฟี่ บุกมาเชือด1-0 แต่ทว่ายัง เดชะบุญที่ วิลล่า บุกไปแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งหาก วิลล่า แค่เสมอกลับมา นิวคาสเซิ่ล ก็จะอดไป UCL ทันที
ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ก่อนเกมนัดสุดท้าย ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สถานการณ์สดใสกว่าใครเพื่อน ขอเพียงแค่ 1แต้ม ที่ คราเวน ค็อตเทจ พวกเขาก็จะได้ตั๋วไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง เรือใบก็ทำได้ดีเกิดคาด บุกไปเอาชนะ ฟูแล่ม สบายๆ 2-0 จากประตูของ อิลคาย กุนโดกัน และ เออร์ลิง ฮาลันด์
สเปอร์ส เจ้าของแชมป์ ยูโรป้า ลีก ชิล จัดมากๆ เล่นในบ้านนัดสุดท้ายของฤดูกาล ถูก ไบร์ทตัน บุกมาถลุงคารังยับ 4-1 นั่นทำให้ทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกูล ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้า ในฐานะทีมที่จบในลีกไกลถึงที่ 17
สำหรับนักเตะยอดเยี่ยม ทั้งยิงและแอสซิสต์ ก็เป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เหมาเรียบหมด ทั้งดาวซัลโว 28ประตู และจอมแอสซิสต์ 19ประตู รวมถึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ชูถ้วยแชมป์แบบน้ำตาซึมต่อหน้าแฟนบอลที่แอนฟิลด์ เพื่อเป็นการล่ำลา
สล็อต คนที่ไม่คาดคิด หงส์แชมป์พรีเมียร์ ยิ่งใหญ่
ตอน เจอร์เก้น คล็อปป์ อำลาตำแหน่ง ต้องบอกว่า สำหรับผู้ที่มาแทนอย่าง อาร์เน่อ สล็อต ชื่อเสียงโปรไฟล์ ไม่ได้ถือขั้นว่าเป็นบิ๊กเนมเท่าไหร่ คุมทีมใหญ่สุดคือ เฟเยนูร์ด ข้องกังขา ความกังวลจากแฟนๆ เต็มหัวไปหมด
แถมในตลาดซัมเมอร์บอร์ดบริหาร ก็ติดอาวุธเสริมทัพให้ กุนซือชาวดัตช์ เพียงรายเดียวเท่านั่น และเป็นแข้งที่ไม่ค่อยถูกใช้ และมีอาการบาดเจ็ยออดๆแอดๆ อย่าง เฟเดริโก้ เคียซ่า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ สล็อต หยุดเดินหน้าแต่อย่างใด
ลิเวอร์พูล ภายใต้มันสมองของ สล็อต ดูเป็นทีมที่เล่นบาล๊านซ์ สมดุลขึ้น ไม่บุกบ้าพลังเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นการเล่นแบบยืดหยุ่น จะเร่งก็เป็นในตามจังหวะเกม หงส์แดงนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่นัดที่ 10
และพวกเขาก็ไม่เคย ร่วงหล่นลงมาอีกเลย และคว้าแชมป์อย่างเป็นทางการนัดที่ 34 ที่เอาชนะ สเปอร์ส ไปขาดลอย 5-1 นั่นทำให้ 4นัดสุดท้าย หงส์แดงปล่อยจอยมากๆ ทำให้ไม่ชนะใครเลย เสมอ2 - แพ้2
ลิเวอร์พูล มีสถิติ ไม่แพ้ในพรีเมียร์ลีกยาวนานถึง 26นัด ผู้เล่นคีย์แมนที่โดดเด่น ได้แก่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทั้งยิง 29ประตู และแอสซิสต์อีก18 รวมไปจนถึง ไรอั้น กราเฟนแบร์ค ที่ถูกโมดิฟาย ตำแหน่งการเล่น ให้การเป็นมิดฟิลด์เชิงรับที่ดีที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก
84 คะแนน จาก 38นัด ดีพอที่จะพาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2024-2025นี้ ซึ่งหากพวกเขาไม่ปล่อยจอยไปก่อน ก็มีสิทธิมากๆที่แต้มจะทะลุ90แต้ม สุดท้ายแล้วบอร์ดบริหารทีม ก็ตัดสินใจถูกที่เลือกสุดๆ อาร์เน่อ สล็อต เข้ามารับตำแหน่ง
มาเรสก้า ถือว่าสอบผ่าน กับตั๋ว ยูซีแอล
เป็นอีก1กุนซือ ที่แฟนสิงห์บูลส์ เห็นชื่อแล้วใครว่ะ? สำหรับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่ก่อนมาคุมเซลซี นายใหญ่หัวใสรายนี้ พึ่งจะพา เลสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ และกลับมาเล่นพรีเมียร์ลีก ซึ่งช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล มาเรสก้า ทำได้ดีเกิดคาด
เซลซี ออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยการแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 หลังจากนั้นสิงห์บูลส์ก็ลุ่มๆดอนๆก่อนที่จะมาชนะ5นัดรวด ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มาจนถึงกลางเดือนธันวาคม จนเป็นรองจ่าฝูงและถูกมองว่าจะเป็นม้ามืด ลุ้นแย่งแชมป์กับลิเวอร์พูล
แต่ทว่ากลังจากนั้นทีมของ มาเรสก้า เหมือนจะกดดัน 10นัด ต่อมา แพ้ไปถึง5 - เสมอ3 และ ชนะแค่2 จนตอนนั้น เอ็นโซ่ มาเรสก้า โดนวิจารณ์หนักหน่วงมากๆ เกี่ยวกับวิธีการเล่น รวมถึงการชอบเอาแบ็กอย่าง รีส เจมส์ ไปเล่นแก้ขัดเป็นมิดฟิลด์
ถึงอย่างนั้นก็ดี เซลซี ที่ดูจะพลาดการไปเล่น ยูซีแอลแล้ว แม้ว่าทีมจากอังกฤษ จะได้โควตาไป5ทีม แต่ทว่าเซลซี ที่โปรแกรมหนักกว่าใครเพื่อนในกลุ่มลุ้นตั๋ว ก็เริ่มเล่นเน้นผลเหนียวแน่นมากขึ้น และพวกเขาชนะ5จาก 6นัดสุดท้าย
ซึ่งมีทีมใหญ่ทั้ง ลิเวอร์พูล ( 3-1) ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1-0) และนัดสุดท้าย กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่แย่งตั๋วกันโดยตรง และเป็นเซลซีที่เก๋ากว่า เอาชนะไปได้ 1-0 จบอันดับ4 ไปเล่น ยูซีแอล ถือว่าสอบผ่านมากๆเลยสำหรับ ปีแรกในการคุม เซลซี ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า
ฟอเรสต์ ทานความกดดันไม่ไหว แพ้ภัยตัวเอง
ฤดูกาลที่แล้ว 2023-2024 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ยังต้อนดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่เลย เพราะพวกเขาจบอันดับ17 แต่ทว่า นูโน่ เอสปิริโต้ ในฤดูกาลนี้ ที่ได้คุมทัพเจ้าป่าแบบแต็มๆฤดูกาล กลับสร้างเซอร์ไพรส์เหลือเกิน
ฟอเรสต์ เจอทีมที่ลงตัว สไตล์การเล่นที่ใช่ นั่นก็คือเน้นเกมรับให้เหนียวแน่น เล่นจังหวะสวนกลับ กองหน้าตัวเป้าขนานแท้ คริส วู้ด ที่ยิงไปได้มากถึง 20ประตู ในพรีเมียร์ลีก ปีกและตัวรุกมีทีเด็ดอย่าง แอนโธนี อีแลงก้า - มอร์แกน กิบบ์ส ไวท์ เซ็นเตอร์เหนียวแน่นแข็งแกร่ง มูริลโล่ กับ นิโกลา มิเลนโควิช และนายด่าน จอมหนึบ แมตซ์ เซลส์
เจ้าป่ามีช่วงเข้าเบรก ชนะ6นัดรวดในลีกด้วย จนบินสูงเป็นรองจ่าฝูง ซึ่งจากฟอร์มภาพรวมความสม่ำเสมอของพวกเขา น่าจะทำอันดับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ไม่ยาก แต่ทว่าด้วยความกดดันต่างๆช่วงท้ายฤดูกาลทำให้ ฟอเรสต์ ออกอาการเรื่อยๆ
ประสบการณ์นี่แหละคือสิ่งที่ทีมของ นูโน่ ยังไม่มี รวมไปจนถึง ในสถานการณ์ที่ต้องเปิดเกมบุกใส่คู่แข่ง เพื่อคว้า3แต้ม พวกเขาดูจะไม่ถนัดเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมา เล่นแบบทีมมวยรองรับแล้วสวนกลับ
ทำให้ 8นัดสุดท้ายในลีก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ สะดุดออกข้างทางเป็นว่าเล่น ชนะแค่ 2 - เสมอ2 และแพ้ 4 รวมถึงเกมชี้ชะตาสุดท้ายกับ เซลซี หากเอาชนะได้ พวกเขามีลุ้นจะจบอันดับ5 แต่ทว่าด้วยความเก๋าและความเขี้ยว พวกเขาเป็นรองผู้มาเยือนชัดเจน จึงพ่ายไป 0-1 จบอันดับ7 เสียดาย ได้ไปแค่ คอนเฟอเรนซ์ แทน
สาลิกา ได้ผีช่วย / วิลล่า อกหัก
จริงๆก่อนเกมนัดที่38 จะฟาดแข้ง สถานการ์ของ นิวคาสเซิ่ล ค่อนข้างเป็นใจ เพราะพวกเขาอยู่อันดับ 4 และคู่แข่งในเกมสุดท้ายคือ เอฟเวอร์ตัน ที่ไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว แถมสาลิกาดง ยังได้เล่นใน เซนต์ เจมส์ ปาร์ค อีก ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ทว่าพอเล่นมาเล่นไป ไม่รู้ว่าทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว เกร็งไปเองเปล่า บวกกับ เอฟเวอร์ตัน มาดีกว่าที่คิด แม้จะครองบอลน้อยกว่า แต่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน มีจังหวะสวนเป็นระยะๆ และก็บุกมานำจนได้จาก คาร์ลอส อัลการาซ น.65
สถานการณ์ ณ ตอนนั้น ต้องบอกว่า นิวคาสเซิ่ล จะจบอันดับ 6 และอดไปเล่น ยูซีแอล ทันที เพราะอีกสนามที่ โอลด์ แทร็ฟอร์ด คู่แข่งโดยตรงอย่าง แอสตัน วิลล่า ที่เหลือ10คน เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0
แต่ทว่าท้ายที่สุด เหมือนโชคจะอยู่ข้างทีมดังภาคอีสาน เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่มีอะไรให้ลุ้น มาได้2ประตู จาก อาหมัด ดิยัลโล่ และ คริสเตียน อิริคเซ่น (จุดโทษ) ทำให้ปีศาจแดงเอาชนะไป 2-0
ส่วน แอสตัน วิลล่า ของ อูไน เอเมรี่ น่าเสียดายไม่น้อย เพราะพวกเขาอุตส่าห์เร่งฟอร์มท้ายซีซั่น ชนะ8 จาก9นัดหลัง ( จนมาแพ้ปีศาจแดง) และต้องเล่นเพียง10คน ตั้งแต่ท้าย45นาทีแรก เพราะ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ต้องออกมาแก้ไขความผิดพลาดของเพื่อนร่วมทีม ด้วยการตัดบอลทำฟาวล์ ราสมุส ฮอยลุนด์ นอกกรอบ
รวมไปจนถึงช่วงที่สกอร์ 0-0 วิลล่า ก็ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้จาก มอร์แกน โรเจอร์ส ที่ไปฉกบอลมาจาก อัลตาย บายินดีร์ ที่ล้มรับบอลไม่ดี แต่ VAR และผู้ตัดสินบอกว่าเป็นการฟาวล์ เล่นเอา อูไน เอเมรี่ กุนซือหัวเสียสุดขีดและหลังจบเกม สโมสรเตรียมร้องเรียนการตัดสินแล้ว เพราะทำให้ทีมเสียหาย ได้ไปเล่นแค่ ยูโรป้า แทนที่ จะเป็น แชมเปี้ยนส์ ลีก
ม้าขาว-จิ้งจอก-นักบุญ น้องใหม่ตกชั้นแบบ ไม่มีอะไรให้ลุ้น
กลายเป็นว่านี่เป็นซีซั่นที่2ติดต่อกัน ที่ทีมน้องใหม่ที่ขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก ต้องร่วงหล่น ตกชั้น กลับลงไป เดอะ แชมเปี้ยนส์ ชิพ ภายในฤดูกาลเดียวเลย ทั้งหมดเลย 2023-2024 เป็น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (20) -เบิร์นลี่ย์ (19) และ ลูตัน ทาวน์ ( 18)
มาฤดูกาลปัจจุบัน ทีมน้องใหม่อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ - อิปสวิช ทาวน์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่พึ่งขึ้นมาสูดอากาศหายใจ และก็ลงไปปั๊ปเลย และทั้ง3ทีมเหล่านี้ ตกชั้นแบบไม่มีหือ ไม่มีอือ ไม่มีลุ้นว่าจะรอดทั้งสิ้น
เลสเตอร์ ซิตี้ จบอันดับ18 เหมือนจะดีช่วงแรก2นัด ที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย คุมทัพ เพราะเก็บไป4แต้ม แต่ทว่าหลังจากนั้นอีก15นัดต่อมา ประทานโทษ " พี่ม้า " พาทีมแพ้ไป 14 ท้ายที่สุดแล้ว จิ้งจอกสยาม ก็ตกชั้นอย่างเป็นทางการนัดที่ 32 หลังเปิดบ้านแพ้ลิเวอร์พูล 0-1 และมีเพียง25แต้ม จาก38นัด ตามหลังทีมอันดับ17 สเปอร์ส ที่รอดตกชั้น ห่างถึง13แต้ม
อิปสวิช ทาวน์ ของ คีแรน แม็คเคนน่า ที่แพ้จะมีทรงบอลดี แต่ผลลัพธ์เวลาลงสนามนั้นตรงข้ามมากๆ 19นัดหลังสุด พวกเขาชนะแค่ 1 หรือเกมในบ้าน พอร์ตแมน โร้ด ชนะได้แค่นัดเดียว เป็นสถิติของทีมที่เล่นในบ้านแล้วชนะน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
สรุปแล้ว ม้าขาว จบที่อันดับ19 มีอยู่เพียง 22แต้ม ตกชั้นอย่างเป็นทางการเกมที่ 32 หลังบุกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 เรื่องดีเดียวของ พวกเขานั่นก็คือ ดาวยิงอย่าง เลียม ดีแร็ป ที่ซัดไป12ประตู และจะขายทำเงินในซัมเมอร์นี่้ได้หลัก 30 ล้านปอนด์แน่ๆ
สุดท้ายห่วยสุดอันดับ20 เซาธ์แฮมป์ตัน รายนี้โคม่ากว่าใครเพื่อนเลย เพราะเก็บไปได้เพียง12คะแนน จาก 38นัด เสียไปมโหฬาร 86ประตู เล่นจะเล่นดีเล่นแย่ยังไง แต่บทสรุป90นาที ก็เหมือนบอลล็อกผล นักบุญก็ต้องแพ้อยู่ดี
30นัด จาก38 คือจำนวนการปราชัยของ เซาธ์แฮมป์ตัน และ " เดอะ เซนส์ " ตกชั้นเร็วสุดๆตั้งแต่นัดที่ 31 หลังบุกไปแพ้ สเปอร์ส 1-3 เป็นสถิติที่เร็วที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก ทั้ง รัสเซลล์ มาร์ตินย์ - อิวาน ยูริช - ไซม่อน รัสค์ (รักษาการชั่วคราว) ไม่มีใครสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ กับทีมที่มีคุณภาพนักเตะแบบนี้
- คอลัมน์นิสต์
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วิเคราะห์บอล นิวคาสเซิ่ล เซลซี ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คอลัมน์บอล
- 139
- 26 พ.ค. 2568