ปราบทีมอังกฤษ รวด ! เปแอชเช เข้าชิง ย้ำแค้น ปืน 2-1 ดอนนารุมม่า โชว์เซฟเทพ (อีกแล้ว)
แม้จะออกสตาร์ทได้ไม่ค่อยดี แต่ทว่าก็ค่อยๆตั้งลำและย้ำแค้นอาร์เซน่อล ได้สำเร็จ สำหรับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อเปิดบ้าน เลก2 ด้วยการเฉือนเอาชนะทีมดังจากอังกฤษไป 2-1 รวมผล2นัด ทีมจาก ลีก เอิง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปได้ ด้วยสกอร์รวม 3-1 โดยพระเอกของเกมเป็นของ อัชราฟ ฮาคิมี่ ที่คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แม้ว่าในเกมจะเป็นอีกครั้งและอีกครั้ง ที่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า บินเหาะเหินเดินอากาศ โชว์ซุปเปอร์เซฟ
เปแอชเช กุมความได้เปรียบเป็นอย่างมาก ในการกลับมาเล่นที่ ปาร์ค เดส แพรงส์ หลังเลกแรก พวกเขาบุกไปเอาชนะมาที่ เอมิเรต สเตเดี้ยม 2-1 รวมถึงเกมลีกเอิง เมื่อสุดสัปดาห์ นัดที่บุกไปพ่าย สตาร์บูร์กส์ 2-1 กุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ โรเตชั่น นักเตะแบบยกแผง
กับอาร์เซน่อล ปารีส มาในระบบเก่ง 4-3-3 นายด่านจอมหนึบ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แบ็กซ้าย-ขวา นูโน่ เมนเดส และ อัชราฟ ฮาคิมี่ คู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ มาควินญอส ยืนกับ วิลเลี่ยม ปาโช่ 3 มิดฟิลด์ทรีโอที่ลงตัวสุดๆ วิตินญ่า - ชูเอา เนเวส และ ฟาเบียน ลุยซ์
แนวรุก อุสมาน เดมเบล่ ไม่ฟิตพอที่จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ทำให้3ประสานเป็น ควิชา ควารัตสเคเลีย - เดซีเร ดูเอ้ และ แบรดลี่ย์ บาร์โคล่า ส่วนปืนใหญ่ ที่แทบไม่ได้โรเตชั่นนักเตะจากเกมที่แพ้ บอร์นมัธ คาบ้าน 1-2 เลย นายใหญ่ " พี่ต้า " มาในระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู ดาบิด ราย่า - แผงแบ็กโฟร์ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ - ยาคุบ คิวิออร์ - วิลเลี่ยม ซาลิบา และ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ กองกลางชุดที่ดีที่สุด โธมัส ปาร์เตย์ - เดแคลน ไรซ์ และ มาร์ติน โอเดการ์ด แนวรุก ปีกซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - ปีกขวา บูกาโย่ ซาก้า และ หน้าเป้า มิเคล เมริโน่
เริ่มเกมมา10นาทีแรก เป็นไอ้ปืนใหญ่ ที่มุ่งมั่นมากๆบีบเร็ว เพรสหนักหน่วง จนทำให้เจ้าบ้านตั้งกระบวนท่าไม่เป็น และได้ลุ้นก่อนจากลูกโขกของ ไรซ์ แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว และอาร์เซน่อล ก็น่าได้ประตูนำ มาร์ติเนลลี่ โฉบมายิง แต่ ดอนนารุมม่า ใช้เข่าเซฟไว้ได้
ปืนใหญ่ น่าได้ประตูนำสุดๆ น.8 เมื่อ โอเดการ์ด ได้ยิงเรียกเต็มข้อในเขตโทษ แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยังเร็วเหลือเชื่อพุ่งปัดบอลเรียดและแรงออกไปได้ เจ้าบ้านได้สวนเจ็บๆเหมือนกันจากจังหวะยิงของ ควิชา แต่ไปชนเสาเต็มๆ
ทว่าอย่างไรก็ตาม ปารีส ก็มาขึ้นนำไปก่อน 1-0 ปาร์เตย์ โขกสกัดบอลไปเข้าทาง ฟาเบียน รุยซ์ ที่เอาบอลลงและหวดด้วยซ้ายเต็มแรงบริเวณแถว2 บอลผ่าน ราย่า เข้าไปสุดสวย น.27 หลังจากนั้นเจ้าบ้านก็ได้ใจ มีโอกาสได้บวกเพิ่มอีก บาร์โคล่า ได้ยิงไปแฉลบ ไรซ์ แต่ ราย่า ยังเหนียวเซฟไว้ได้ จบ45นาทีแรกเจ้าบ้านนำ 1-0
ครึ่งหลัง เปแอชเช ที่สกอร์นำอยู่ ทำให้ผ่อนเกมลง อาร์เซน่อล จึงเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ และน่าส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายมากๆ ได้ยิงโค้งๆด้วยซ้าย ของ ซาก้า บอลทำท่าจะเสียบบริเวณสามเหลี่ยมแน่ๆ แต่ทว่า ดอนนารุมม่า ใช้มืออันยาวเหยียด เซฟไว้ได้อีกครั้ง
น.66 เปแอชเช มาได้จุดโทษ จากจังหวะ VAR เช็กย้อนหลัง สเคลลี่ ทำแฮนบอลด์ วิตินญ่า รับหน้าที่อาสายิง ท่าย่องเบา แต่ทว่า ราย่า ไม่หลังพุ่งเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ปืนโตยังอยู่ในเกม แต่ทว่าอย่างไรก็ตาม เปแอชเช ก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0จนได้
น.72 เดมเบเล่ ตัวสำรอง ทำชิ่งกับ ฮาคิมี่ และจังหวะสุดท้ายแบ็กชาวโมร็อกโก ที่ซัดคมยังกับกองหน้าด้วยขวาบอลเสียบตาข่ายเข้าไป ทว่าอย่างไรก็ตาม น.76 อาร์เซน่อล ก็ยังมีความหวังมาบ้าง ทรอสซาร์ เบียดชนะ มาร์ควินญอส ก่อนเปิดเข้ามาบอลแฉลบเป็นใจมาเข้าทาง ซาก้า ซ้ำโล่งๆเข้าไป ตีตื้น มา 2-1 น.77
โดยช่วง น.80 อาร์เซน่อล พลาดโอกาสทองมากๆที่จะตามเจ๊าเป็น 2-2 ลูกครอสของ คาลาฟิออรี่ ดอนนารุมม่า ออกมาพลาด ซาก้า ได้ยิงเหน่งๆ แต่ยิงข้ามคานออกไปแบบหมูหกสุดๆ จบเกม90นาที จึงเป็น เปแอชเช ที่ย้ำแค้นชนะไป 2-1 รวมผลสองนัด ชนะ 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปดวลกับ อินเตอร์ มิลาน
ดอนนารุมม่า ดับฝันปืนอีกรอบ นัดชิงวัดความหนึบกับ ซอมเมอร์
ฉายแสงจริงๆสำหรับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งความหนึบของเจ้าตัว ณ ตอนแรก อาจจะไม่ได้พูดถึงมากเวลาที่เล่นในเวที ลีก เอิง เพราะสปอตไลท์ส่องถึงน้อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โกลชาวอิตาเลี่ยนรายนี้ องค์เทพลงช่วยให้ เปแอชเช แคล้วคลาด
เหล่าทีมจากอังกฤษ อย่าง ลิเวอร์พูล - แอสตัน วิลล่า เคยได้เห็นความเหนียวของ ดอนนารุมม่า มากับตาตัวเองแล้ว เลกแรกที่ เอมิเรต สเตเดี้ยม การกลับออกมาด้วยชนะชนะ 1-0 พร้อม คลีนชีต ต้องซูฮกให้กับ ดอนนารุมม่า เลย โดยเฉพาะการเซฟลูกยิงของ ทรอสซาร์ ที่มองยังไงก็น่าจะชิ่งเสาเข้าประตู
เมื่อคืนที่ ปาร์ค เดส แพรงส์ เปแอชเช ที่เริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไหร่ พวกเขา เกือบโดนอาร์เซน่อล ขึ้นนำมากๆ จากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด ได้ซัดเรียกเต็มข้อ บอลผ่านผู้เล่นเจ้าบ้าน แต่ ดอนนารุมม่า ยังมือไว ล้มตัวเซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่โดนบังบอล
ก่อนหน้านั้น ก็มีใช้ขาเซฟลูกยิงของ มาร์ติเนลลี่ หรือใน 45นาทีหลัง ราวๆ น.65 บูกาโย่ ซาก้า ได้ปั่นด้วยซ้ายบอลจะหุบเข้าสามเหลี่ยมแน่ๆ แต่ " จีโจ้ " ได้ใช้ช่วงแขนที่ยาว ปัดออกไปได้อย่างสุดยอด การมีนายด่านดีๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และกันไม่ให้ทีมโมเมนตัมเสียจริงๆ
จังหวะที่เสียประตู 2-1 ให้ ซาก้า จะโทษเจ้าตัวก็คงจะไม่ได้เพราะจังหวะเป็นใจเหลือเกิน เปแอชเช ที่เอาจริงๆแนวรับไม่ได้เหนียวแน่นเท่าไหร่ โดยเฉพาะในรายของ มาร์ควินญอส แต่ทว่าพวกเขาก็ได้ ดอนนารุมม่า นี่แหละที่ช่วยไว้ได้แบบน่าเหลือเชื่อจังหวะสุดท้าย นัดชิงกับ อินเตอร์ มิลาน จะเป็นการวัดกันของ 2โกลที่ฟอร์มหนึบสุดๆใน ยูซีแอล ระหว่าง ดอนนารุมม่า กับ ซอมเมอร์
ฮาคิมี่ เวลารุกมัน ยิงคมไม่แพ้กองหน้า
ปรกติแล้วในยุคของ หลุยส์ เอ็นริเก้ แบ็กซ้าย-ขวา ของพวกเขามีจุดเด่นอยู่แล้วในเรื่องของเกมรุก แต่ทว่าเมื่อคืนกับอาร์เซน่อล เหมือนในบทบาทการเติมเกมรุกจะเป็นของ ฮาคิมี่ คนเดียวมากกว่า เพราะทางฝั่งซ้าย นูโน่ เมนเดส ไม่ค่อยเดิมเท่าไหร่
บวกกับการที่แบ็กซ้ายของอาร์เซน่อลอย่าง ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ วันนี้ออกอาการลกมาก จากที่เลกแรกเล่นดี ทำให้คอมโบทางฝั่งขวาของ ฮาคิมี่ กับ ดูเอ้ สร้างความปั่นป่วนดียิ่งนัก
แบ็กชาวโมร็อกโก เรียกจุดโทษให้ทีมได้ เมื่อยิงบอลไปโดนมือเจ้าหนู ลูอิส-สเกลลี่ แต่น่าเสียดาย วิตินญ่า ที่เลือกยิงจุดโทษแบบย่องๆ แถมซัดเบา ทำให้ ราย่า ที่ปรกติชอบพุ่งก่อน แต่ทว่าวันนี้เลือกอ่านทางคนยิงและเซฟได้
แต่ทว่า ฮาคิมี่ ก็มามีประตูของตัวเองจนได้ เมื่อทำชิ่งรับบอลกับ เดมเบเล่ ก่อนหมุนยิงด้วยขวาในเขตโทษเข้าไปอย่างสวย แบ็กชาวโมร็อกโก นั่นเท่ากับว่า อัชราฟ ฮาคิมี่ แม้จะเล่นในบทบาทแบ็ก แต่ซีซั่นนี้ก็ยังทำไปได้ถึง 7ประตู กับอีก 11แอสซิสต์
สถิติของ ฮาคิมี่ เมื่อคืนไม่แปลกใจเลยสำหรับ รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ชนะการดวล5ครั้ง- เข้าแท็กเกิ้ล5ครั้ง - เอาชนะการครองบอล 3ครั้ง - เลี้ยงบอลผ่าน4หน เป็นผู้เล่นในแนวรับแต่ก็มีโอกาสยิงมากถึง 3ครั้ง
เจ้าหนู ลูอิส-สเกลลี่ เสียดายมาหลุดนัดสำคัญ
รอบ8ทีมสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล ผ่าน เรอัล มาดริด มาได้ และเป็นการตบเจ้ายุโรปแบบเหย้า-เยือน เจ้าหนู ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ เล่นได้ดีมากๆ ไม่มีอาการตื่นให้เห็นเลย แม้จะอายุเพียงแค่ 18ปี และเล่นรายการนี้เป็นหนแรก นอกจากนี้ยังอิน-เวิร์ด มาเล่นกลางได้อย่างไม่ขัดเขินอีกด้วย
เกมแรกที่แพ้ เปแอชเช คาบ้าน หนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ผลงานได้น่าประทับใจของปืนใหญ่ก็คือ ลูอิส-สเกลลี่ นี่แหละ แต่ทว่าพอมาเลก2ที่ ปาร์ค เดส แพรงส์ แบ็กดาวโรจน์รายนี้ ออกอาการลนสุดๆ จนทำให้ทีมต้องเจอสถานการณ์ที่ลำบาก
เริ่มต้นมา สเกลลี่ ดูดีเลย แต่ทว่าก็ค่อยๆก่อความผิดพลาดให้เห็น เส้นทางที่ เปแอชเช โจมตีได้สะดวก นั่นก็คือฝั่งซ้ายของอาร์เซน่อลนี่แหละ เอาในเกมรุก แข้งวัย18ปี สอดขึ้นไปข้างหน้าไม่ค่อยได้ หรือเวลาได้บอล ก็เก็บไว้กับตัวนานเกินไป จนจังหวะทีมเสีย และเล่นลำบาก
ถ้าจะอธิบายง่ายๆคือลกนั่นแหละ คอมโบของ ฮาคิมี่ กับ ดูเอ้ ทำให้ ลูอิส สเกลลี่ ปวดหัวตลอด แถมยังเป็นคนทำเสียจุดโทษอีกด้วย เพราะเก็บมือไม่ดีเลย จากจังหวะยิงของ ฮาคิมี่ ทีดี่ ดาบิด ราย่า ยังแก้ตัวให้ได้ จนท้ายที่สุด อาร์เตต้า เห็นว่าเจ้าหนูรายนี้น่าจะกำลังหลุด จึงเปลี่ยนออกให้ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ลงมาแทน น.69
อีกคนที่ฟอร์มหลุดมาสักระยะของปืนโตแล้ว นั่นก็คือเซ็นเตอร์ตัวเก่ง ซาลิบา เมื่อคืนผิดฟอร์มไปมาก จ่ายบอลเสียในพื้นที่อันตราย จริงๆเกมที่เสมอ คริสตัล พาลเลซ 2-2 แนวรับชาวฝรั่งเศสรายนี้ ก็เป็นคนจ่ายบอลพลาดจนโดนตามเจ๊า
ยังดีที่เมื่อคืน แม้ ดอนนารุม่า จะได้รับคำชมอย่างมาก แต่ต้องไม่ลืมว่า ดาบิด ราย่า ก็มีโชว์องค์ลงเหมือนกัน ทั้งเซฟจุดโทษ วิตินญ่า และ ปัดลูกยิงของ เสาแรกของ บาร์โคล่า ใน45นาทีแรก และลูกซัดของ ฮาคิมี่ ที่ไปแฉลบ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่
อาร์เตต้า ไร้ถ้วยอีกแล้ว เสียดายไม่โรเตชั่นเกม บอร์นมัธ
ก่อนหน้านั้นราวๆ 2สัปดาห์ พวกเขาพึ่งจะหมดสิทธิคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปอย่างเป็นทางการสำหรับ อาร์เซน่อล แต่ทว่าเมื่อดูจากผลงานภาพรวมและความสม่ำเสมอต้องบอกว่า พลพรรคปืนใหญ่ แทบไม่มีช่วงไหนเลย ที่จะทำแต้มจี้ตูดหงส์แดงให้ได้หวาดเสียวเลย
โดย5นัดหลังสุดในลีก " เดอะ กันเนอร์ส " เอาชนะได้เพียงแค่1นัดเท่านั้น ส่วนเกมลีกล่าสุดที่พังพาบแพ้ บอร์นมัธ คาบ้าน 1-2 ซึ่งในเรื่องของการปราชัย ไม่น่าจะเสียหายเท่าไหร่หรอก สำหรับอันดับ แต่ทว่าที่น่าเสียดายนั่นก็คือการจัดตัวผู้เล่น
มิเคล อาร์เตต้า ส่งตัวจริงเต็มสูบลงสนามฟัดกับ " เดอะ เชอร์รี่ส์ " ผิดกับทั้ง3ทีมที่ผ่านมาเข้ารอบรอง ยูซีแอล อย่าง บาร์เซโลน่า - อินเตอร์ มิลาน รวมถึงคู่แข่งอย่าง เปแอชเช ต่างโรเตชั่นกันเต็มสูบเลย
ส่วนอีกจุดที่น่าสังเกตของปืนใหญ่พักหลังคือ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเจ้าพ่อลูกตั้งเตะ แต่ทว่าหลังปีใหม่เป็นต้นมา ทีมของ อาร์เตต้า ก็โดนเล่นงานจากลูกตั้งเตะเป็นระยะเช่นกัน ประตูแรกที่เสียให้ ปารีส จุดเริ่มต้นก็มาจากฟรีคิก
หรือนัดเจ๊าบอร์นมัธ พวกเขาก็เสียประตูจากลูกทุ่มโดยตรงและเตะมุม ส่วนฤดูกาล 2024-2025 การตกรอบด้วยน้ำมือ เปแอชเช เท่ากับว่า นี่คือฤดูกาลที่5ติดต่อกันที่ อาร์เซน่อล ไร้โทรฟี่แชมป์ ซึ่งคาดว่า อาร์เตต้า น่าจะได้โอกาสแก้ตัวอีกฤดูกาล ถ้าไม่มีถ้วยติดมืออีกคาดว่า " พี่ต้า " น่าจะปลิวแน่ๆ
เปแอชเช เล่นไม่เป็นตัวเอง ระวังเจองูใหญ่
ถ้าดูผลงานในรอบ ลีก เฟส เหลือเชื่อเหมือนกันว่า เปแอชเช จะกรุยทางเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศได้ เพราะพวกเขาจบอันดับ 15 จากผลงาน ชนะ 4 / เสมอ 1และแพ้ 3 เข้ารอบ16ทีมสุดท้ายมาด้วยการเพลย์ออฟ ถล่ม เอาชนะ แบรสต์ เพื่อนร่วม ลีก เอิง 2นัด สกอร์รวมมโหฬาร 10 -0
นับตั้งแต่รอบ 16ทีมขึ้นมา หลุยส์ เอ็นริเก้ ก็เหมือนจะเจอทีมที่ลงตัวขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะจุดแข็ง3มิดฟิลด์ ที่ไม่มีตัวรับธรรมชาติเลยอย่าง ชูเอา เนเวส - วิตินญ่า และ ฟาเบียน ลุยซ์ แต่ทว่าทั้งหมดนี้ ทักษะ เชิงบอล การจ่ายบอล ความคล่องมีหมด ทำให้เล่นออกมาได้ละมุนลงตัวมากๆ
รวมไปจนถึง นายด่าน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ก็มีเซฟสำคัญสวยๆมาทุกรอบ ที่ผ่านทีมจากอังกฤษมา ทั้ง ลิเวอร์พูล - แอสตัน วิลล่า และเมื่อคืนอาร์เซน่อล จริงๆเมื่อคืน ด้วยสกอร์ที่ได้เปรียบเกมแรก 1-0 ทำให้ หลุยส์ เอ็นริเก้ เลือกวิธีการเล่นที่ไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่
เราจะเห็นได้ว่าช่วง 10-20 นาที อาร์เซน่อล ทำได้ดีเลย ในเรื่องของการบีบเพรส จน ปารีส มาได้ประตูพลิกโมเมนตัมจาก ฟาเบียน ลุยซ์ รวมไปจนถึงแนวรับของพวกเขาก็เสียประตูมาทุกรอบ เซ็นเตอร์กัปตันทีมอย่าง มาควินญอส เสียเปรียบเรื่องรูปร่าง และเล่นผิดพลาดหลายครั้ง เมื่อคืนก็โดน ทรอสซาร์ กระแทกเบียดแย่งกับประตูไล่มา 2-1
ซึ่งการเจอกับ อินเตอร์ มิลาน ที่แม้จะเป็นทีมเล่นเกมรับ แต่ทว่าพวกเขาก็สวนกลับได้คมกริบเป็นใบมีดโกนสุดๆ จาก 7ประตู ที่เผด็จศึกใส่บาร์เซโลน่า ทั้ง2นัดได้ เปแอชเช ที่เกมรับหลวมๆแบบนี้ ต้องระวังให้ได้ และต้องช่วยกันเล่นให้เนี๊ยบจริงๆ หากอยากปลดล็อกคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกให้ได้ หลังอกหักมาแล้ว 1หน ในนัดชิงที่แพ้ บาเยิร์น 0-1 ปี 2020